วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

พลัง แห่ง ธรรมชาติ 3 : นักธุรกิจการขาย ทีม และเครือข่าย (The power of nature 3 : The business network sales and team.)



พลัง แห่ง ธรรมชาติ 3 : นักธุรกิจการขาย ทีม และเครือข่าย

(The power of nature 3 : The business network sales and team.)



               สำหรับธุรกิจเครือข่าย การขับเคลื่อนของทีม อาจจะต้องอาศัย การสร้างแรงจูงใจ และกระบวนการพัฒนาบุคลากรในองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรลุผล เป้าหมาย และความสำเร็จ อย่างมีเสถียรภาพ...

                ในธุรกิจเครือข่าย ผมไม่อาจจะกล่าวว่าแบ่งปันความสำเร็จของตนเอง เพราะว่าความสำเร็จของผมอาจไม่มากพอ แต่ สิ่งที่ผมแบ่งปัน คือ รอยแผลที่เคยพลาดในอดีต ที่ผ่านการรักษาหายดีแล้ว ทุกรอยแผล มีเรื่องเล่า ทุกเรื่องเล่ามีสิ่งให้เรียนรู้ ผมเพียงคาดหวังว่า เรื่องเล่าจากรอยแผลที่ผมเคยมี และจะไม่ปรากฏซ้ำรอยเดิมในชีวิตของผู้แสวงหา เพื่อก้าวสู่ความใฝ่ฝันที่ยิ่งใหญ่กว่า...

                แรงขับเคลื่อนทีมงานธุรกิจการขาย เริ่มจากความเข้าใจบุคลากรในทีม จูงใจ ไม่ใช่ จูงจมูก และ ครองใจ ไม่ใช่ ครอบงำ การเข้าถึงศักยภาพของนักธุรกิจการขาย เพื่อเปล่งพลังแห่งธรรมชาติ ให้สูงสุด เราควรเริ่มจาก DRIVE เพื่อขับเคลื่อนพลังธรรมชาติของเครือข่ายธุรกิจ

Dream ความใฝ่ฝัน ผู้คนส่วนใหญ่มีความปรารถนาในสิ่งที่ดีกว่า แต่อาจจะไม่กล้าพอที่จะคิด เพราะยังมองไม่เห็นโอกาส และความเป็นไปได้ หากว่าเราสามารถแสดงให้เห็นว่า ความอยากของคุณ + ความชำนาญของทีมเรา ความเป็นไปได้ก็จะสูงขึ้น โอกาสก็จะสูงขึ้น เมื่อกล้าฝันใหญ่ ใจเต็มร้อย ศักยภาพหลบในก็จะถูกระเบิดออกมา สิ่งสุดท้ายที่จะใช้สร้างความฝัน คือ สิ่งที่กลัวยิ่งกว่า ความสำเร็จของผู้คนจำนวนหนึ่ง ยอมทำในสิ่งที่ตนเองกลัว เพื่อ หลีกเลี่ยงในสิ่งที่ตนเอง กลัวยิ่งกว่า

Reeducationการให้การศึกษาใหม่ เพื่อให้ก้าวทันฝัน เนื้อหาต้องเข้มข้น ตรงใจ ตรงประเด็น เล่นเป็นเล่น ลุยเป็นลุย การทบทวน และกำหนดเนื้อหาสาระให้ตรงกับเป้าหมายที่ต้องการบรรลุผล สอนให้รู้ ฝึกให้เป็น คิดให้ได้ ด้วยตนเอง หลายปีมานี้ สิ่งที่ผมเห็นบ่อยมากที่สุด คือ ผู้นำมักจะ สอนให้เชื่อ ฝึกให้เชื่อ และในที่สุดคิดเองไม่เป็น ไม่ต่างอะไรกับลัทธิองค์กรลับ การให้การศึกษา เป็นการเรียนเพื่อรู้ รู้เพื่อทำ ทำเพื่อเข้าใจ เข้าใจเพื่อคิดได้ คิดได้เพื่อคิดเป็น ทุกคนคือปัจเจกในเครือข่ายธุรกิจ เพื่อถ่ายทอดความสำเร็จ และให้การศึกษาด้วยแนวคิด การเรียนรู้ ไม่ใช่ การบอกให้เชื่อ

Incentiveการกระตุ้นด้วยการสร้างแรงจูงใจ แรงจูงใจจะสัมฤทธิ์ผล เมื่อครบ 3 องค์ประกอบ คือ คุ้มค่า + มีความเป็นไปได้สูง + ตรงใจอยากได้ เริ่มจาก ความตรงใจอยากได้ คนรุ่นใหม่ ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับ กิน กาม เกียรติ      กิน คือ ฐานะความเป็นอยู่ ฐานะทางเศรษฐกิจ            กาม คือ ความอยากได้อยากมีมากขึ้น การสร้างครอบครัวใหม่ ชีวิตคู่                เกียรติ คือ ชื่อเสียง เกียรติยศ และการยอมรับในสังคม      แน่นอนที่สุด การสร้างแรงกระตุ้นด้วยการสร้างแรงจูงใจ ย่อมต้องสะกิดต่อม กิเลส และตัณหาของมนุษยชาติเชิงบวก ซึ่งเราเรียกว่า "ความใฝ่ฝัน" เมื่อความใฝ่ฝัน ถูกกระตุ้นให้เกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้า ความมุ่งมั่น ความทุ่มเท ก็จะสูงตาม แนวโน้มผลสัมฤทธิ์ ก็จะสูงตามด้วย

Valuation การประเมินคุณค่าบุคลากรในทีม ผู้สำเร็จส่วนใหญ่ มักมีจุดเริ่มต้นที่ความต้องการความมีตัวตนในทีม เป็นบุคคลที่มีความสำคัญของทีม มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และความต้องการพื้นที่อิสระที่จะสร้างอาณาจักรของตนเอง ดังนั้น แนวคิดการประเมินคุณค่าคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน มีแนวโน้มในทิศทาง เก่งพอ ไม่ใช่ แก่พอ อย่าเสี่ยงประเมินคุณค่าบุคลากรในทีมรุ่นใหม่ ด้วยแนวคิดเดิมๆ คือ การคิดเอาเอง จงจำไว้ คนรุ่นเก่า กลัวเสียหน้า แต่ คนรุ่นใหม่ กลัวเสียโอกาส

Evolutionการเจริญเติบโต สู่ผู้นำแนวโน้มใหม่ รักอิสระ มุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ กฎเกณฑ์ปรับเปลี่ยนได้เพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า เล่นเพื่องานแต่ไม่ทำงานแบบเล่นๆ เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และที่สำคัญเสพติดความสำเร็จ ความอาวุโสไม่โดนใจเท่าความสำเร็จที่ใช่ อย่าอ้างความสำเร็จที่เคยผ่านมาในอดีต สิ่งที่ต้องการคือ วันนี้คุณสำเร็จได้เหมือนเดิมหรือไม่ และอนาคตความสำเร็จของคุณโดนใจคนรุ่นใหม่นี้หรือไม่ ดังนั้นความเติบโตในอนาคตอย่าคิดไปเอง คนรุ่นใหม่ตัดสินใจไว ต้องการสำเร็จอย่างจริงจัง และอาจจะมีอัตราการเติบโตที่เป็นสถิติใหม่ ถ้าความคิดของผู้นำไม่มาขวางทางโต เพราะกลัวเสียหน้า จนศักยภาพของใครบางคนในทีมต้องเสียโอกาส...

ด้วยรัก
กอบชัย ศรบรรจงhttps://www.facebook.com/9kobchaiBlog

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น